อุทยานแห่งชาติแม่วงก์
มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร และอำเภอลาดยาว
จังหวัดนครสวรรค์ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธาร ตามเทือกเขาสูงชันก่อกำเนิดเป็นน้ำตกที่สวยงาม 4-5 แห่ง
ทั้งเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำแม่วงศ์ที่สำคัญของจังหวัดนครสวรรค์ นอกจากนี้ยังมีแก่งหินอ่อนทำให้เกิดน้ำตกเล็กๆ ตามแก่งหินนี้ ตลอดจนมีหน้าผาที่สวยงามตามธรรมชาติ
มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 894 ตารางกิโลเมตร หรือ 558,750 ไร่
ฤดูกาลท่องเที่ยว
...เดือนพฤศจิกายน - เดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่เหมาะแก่การไปท่องเที่ยวมากที่สุด
ประวัติความเป็นมา :-
ด้วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
( นายสวัสดิ์ คำประกอบ ) ได้มีหนังสือจากสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ นร 0104/9871 ลงวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2526 ถึงปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
( ดร.เถลิง ธำรงนาวาสวัสดิ์ ) ขอให้จัดพื้นที่ป่าแม่วงก์ - แม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งมีสภาพธรรมชาติและน้ำตกที่สวยงามหลายแห่ง สภาพป่าอุดมสมบูรณ์
และเป็นป่าต้นน้ำลำธารกำหนดเป็นอุทยานแห่งชาติ ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2526 ส่วนอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ จึงได้มีคำสั่งกรมป่าไม้ที่ 1290/2526
ลงวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2526 ให้นายชัยณรงค์ จันทรศาลทูล นักวิชาการป่าไม้ 4 ไปดำเนินการสำรวจหาข้อมูล ปรากฏว่าพื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูง
เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำแม่วงก์ มีทิวทัศน์ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานาชนิด เหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ
ตามหนังสือรายงานผลการสำรวจที่ กษ 0713/พิเศษ ลงวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2526
ส่วนอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้
ได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ มีมติในการประชุมครั้งที่ 1/2528 เมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2528 เห็นชอบให้กำหนดพื้นที่ดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ
โดยได้พระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าคลองคลุงและป่าคลองแม่วงก์ในท้องที่ ตำบลปางตาไว อำเภอคลองคลุง จังหวัดกำแพงเพชร
และป่าแม่วงก์ - แม่เปิน และป่าในท้องที่ตำบลแม่เลย์ และตำบลห้วยน้ำหอม อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์
เป็นอุทยานแห่งชาติในปี พ.ศ. 2530 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 104 ตอนที่ 183 ลงวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2530
เป็น อุทยานแห่งชาติลำดับที่ 55 ของประเทศ
สถานที่น่าสนใจ :-
นอกจากสภาพป่าธรรมชาติซึ่งสวยงามในหลายลักษณะแล้ว
ทางเดินน้ำซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของแม่น้ำสำคัญหลายสาย เช่น ห้วยคลองคลุง แม่น้ำแม่วงก์ คลองโพธิ์ ไหลลงสู่แม่น้ำปิงและแม่น้ำเจ้าพระยา
นอกจากนี้ยังมีแหล่งพักผ่อนคือ น้ำตกหลายแห่ง ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในความสลับซับซ้อนของป่าเขา เช่น
น้ำตกแม่กระสา
การเดินทาง ต้องเดินเท้า ไปประมาณ 18 กิโลเมตร ( ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง )
เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีความสูงถึง 700 เมตร มีชั้นลดหลั่นถึง 9 ชั้น น้ำไหลแรงสวยงามตลอดปี
น้ำตกแม่รีวา
การเดินทาง ต้องเดินเท้า ไปประมาณ 11 ชั่วโมง มีลักษณะเป็นอ่างกลมกว้างราว 30-40 เมตร
รับสายน้ำที่ตกลงมาเป็นชั้นๆ
น้ำตกแม่กี - แม่วงก์
มีความสูงประมาณ 200 เมตร แบ่งเป็นชั้นๆ ถึง 9 ชั้น น้ำไหลเกือบตลอดปี
การเดินทาง ต้องเดินเท้า ไปใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง และได้ชื่อว่า สวยงามที่สุดในเอเซีย
( จากหนังสือ ASEAN MAGAZINE พ.ศ. 2518 )
แก่งผาคอยนาง - แก่งน้ำบนแก่งหิน
จากถนนคลองลาน - อุ้มผาง ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 800 เมตร จะมีทางแยกเข้าไปอีก 200 เมตร จะถึงบริเวณแก่งหินขนาดใหญ่
ที่มีลำน้ำคลองคลุงไหลผ่าน ซึ่งเป็นลำน้ำสายหนึ่งในหลายๆ สายที่ไหลลงสู่แม่น้ำปิง จากบริเวณแก่ดินขึ้นไปตามลำน้ำอีกประมาณ 350 เมตร จะถึง น้ำตกผาคอยนาง
น้ำตกขนาดเล็กที่เด่นและสะดุดตา นอกจากน้ำตกแล้วพื้นที่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ก็ยังมีแก่งหินปูนมีน้ำไหลลดหลั่นเป็นชั้น เหมาะแก่การท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนในเวลากลางวัน
และเป็นที่ชมวิวพักรับประทานอาหาร ในบรรยากาศท่ามกลางหุบเขาอันร่มรื่นเย็นสบาย
จุดชมวิวกิโลเมตร 81
ทิวเขาไกลสุดสายตา จากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ไปตามถนนคลองลาน - อุ้มผาง อีก 15 กิโลเมตร
จะถึงบริเวณหน้าผาที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามมองเห็นทิวเขาไกลสุดสายตา
ช่องเย็น
กิโลเมตรที่ 93 ช่องเขารับสายลมระยะทาง 27 กิโลเมตร จากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของถนนคลองลาน - อุ้มผาง
จะถึงบริเวณหน้าผาที่ตั้งอยู่ระหว่างเขา ซึ่งทำให้บริเวณแห่งนี้มีสายลมพัดผ่านตลอดเวลา จึงถูกขนานนามว่า ช่องเย็น
ตามสภาพภูมิอากาศของพื้นที่แห่งนี้ เนื่องจากช่องเย็นมีสภาพอากาศที่เย็นและชื้น จึงพบพันธุ์ไม้ที่ชอบความชุ่มชื้นบริเวณนี้ ได้แก่ กล้วยไม้ เฟิร์น มหัสดำ ( Treefern )
นอกจากนี้ช่องเย็นยังเป็นที่ อาศัยของนกหลากหลายชนิด จึงเป็น แหล่งดูนกที่สำคัญแห่งหนึ่ง
ยอดเขาโมโกจู
ขุนเขาแห่งความหนาวเย็น ด้วยความสูง 1,960 เมตร จากระดับน้ำทะเล โมโกจูจึงเป็น ยอดเขาที่สูงที่สุด
ในแม่วงก์ ระยะทาง 50 กิโลเมตร จากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ แม้ระยะทางจะไกลและยากแก่การเข้าไปถึง แต่โมโกจูก็ยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางหลายๆ
คนที่จะเก็บเป็นความประทับใจครั้งหนึ่งในชีวิต
สภาพภูมิประเทศ :-
สภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนเรียงรายกันอยู่ตามเทือกเขาถนนธงชัยลดหลั่นลงมาจนถึงพื้นราบ ประมาณ 40-50 ลูก
ยอดเขาที่สูงที่สุดคือ ยอดเขาโมโกจู สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,960 เมตร
เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารต้นกำเนิดของแม่น้ำแม่วงก์ ส่วนพื้นที่ราบมีไม่มาก ส่วนใหญ่อยู่บริเวณริมแม่น้ำ และเป็นแหล่งแร่ธาตุสำคัญ เช่น แร่ไมก้า
สภาพภูมิอากาศ :-
สภาพภูมิอากาศแบ่งออกเป็น 3 ฤดูกาล คือ
ฤดูร้อน :-
ระหว่างเดือนมีนาคม - พฤษภาคม
ฤดูฝน :-
ระหว่างเดือนมิถุนายน - ตุลาคม
ฤดูหนาว :-
ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่เหมาะแก่การไปท่องเที่ยวมากที่สุด
พรรณไม้ :-
สภาพป่าทั่วไปประกอบด้วย ป่าเบญจพรรณ จะอยู่บริเวณที่ราบริมฝั่งห้วยและภูเขาที่ไม่สูงนัก
พันธุ์ไม้
ได้แก่ ไม้สัก พะยอม ชิงชัน กะบก มะม่วงป่า มะค่าโมง แดง ประดู่ จันทร์หอม ป่าดงดิบ ตะเคียน ก่อ กะบาก และป่าเต็งรังซึ่งมีพันธุ์ไม้จำนวนน้อย เช่น ไม้เต็งรัง เหียง พลวง
สัตว์ป่า :-
มีสัตว์ป่านานานชนิด เนื่องจากอยู่ติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร
ซึ่งสัตว์สามารถใช้เส้นทางเดินติดต่อกันได้ ได้แก่ กระทิง ช้าง เสือ กวาง เก้ง หมี กระต่ายป่า ไก่ป่า กระรอก เม่น แมวลาย ลิง
และ นกนานาชนิด เช่น นกแก้ว นกกางเขน นกเขา ฯลฯ
ข้อควรปฏิบัติในการเที่ยวอุทยานฯ :-
- ไม่ทำการยึดถือ ครอบครอง แผ้วถางป่า นำออกไปซึ่งแร่, ดิน, หิน, พรรณไม้ และสัตว์ป่า ตลอดจนของป่าทุกชนิด
- ไม่ล่าสัตว์และไม่นำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ
- ไม่ทำเสียงดังจนเป็นที่รบกวนแก่นักท่องเที่ยวและสัตว์
- ต้องช่วยระมัดระวังมิให้เกิดไฟไหม้ป่า หากมีความจำเป็นต้องก่อไฟ เมื่อเสร็จแล้วกรุณาช่วยดับให้เรียบร้อย
- หากมีข้อสงสัยโปรดติดต่อเจ้าหน้าที่
การเดินทาง + แผนที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์..คลิกที่นี่
|